คดี นวนิยายหางเครื่อง (แนวความคิด หรือ การแสดงออกซึ่งความคิด)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่๖๖๕๖/๒๕๔๙
ประเด็นของคดีนี้เป็นเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานประพันธ์วรรณกรรมประเภทนวนิยายการพิจารณาปัญหานี้จึงต้องพิจารณาผลงานการสร้างสรรค์นวนิยายทั้งเล่มซึ่งรวมทั้งโครงสร้างของเรื่อง
ลำดับการนำเสนอเนื้อเรื่องการแสดงให้เห็นถึงความคิดหลักของนวนิยาย
และรายละเอียดการนำเสนอในส่วนที่เกี่ยวกับตัวละครหลักและ
ตัวละครประกอบตลอดจนสำนวนโวหารและลีลาการเขียนเนื่องจากการคุ้มครองงานสร้างสรรค์วรรณกรรมนวนิยายไม่อาจแยกพิจารณาได้เป็นส่วน
ๆเหมือนงานสร้างสรรค์บางประเภท
เช่นงานสร้างสรรค์ดนตรีกรรมที่อาจแยกพิจารณาได้ทั้งงานประพันธ์ทำนอง หรือคำร้องหรือการเรียบเรียงเสียงประสาน
ดังนั้นการทำซ้ำหรือเลียนแบบงานประพันธ์ของบุคคลอื่นแม้เพียงส่วนหนึ่งส่วนใด
เช่นลอกสำนวนโวหารหรือข้อความส่วนหนึ่งส่วนใดอันเป็นงานประพันธ์ที่ชี้ให้เห็นถึงความเฉพาะเจาะจงจะเป็นเรื่องที่นักประพันธ์ที่ดีไม่ทำกันแต่ก็ไม่ถึงกับเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามกฎหมายในงานสร้างสรรค์วรรณกรรมประเภทนวนิยาย
การพิจารณาปัญหานี้จึงจำเป็นต้องตรวจพิจารณานวนิยายทั้งสองเรื่องซึ่งจากการตรวจพิเคราะห์แล้ว
พบว่านวนิยายทั้งสองเรื่องมีโครงเรื่องคล้ายคลึงกันคือเป็นเรื่องของนักร้องผู้หญิงที่ยากจนอยากเป็นนักร้องจนต้องยอมมีความสัมพันธ์ทางเพศกับนักข่าวนักหนังสือพิมพ์และมีตอนจบที่นักร้องซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องได้มีชีวิตอย่างมีความสุขกับคนที่ตนรัก
ในเรื่องความคล้ายกันของโครงเรื่องนี้จำเลยนำสืบว่า
เอาโครงเรื่องของนิยายเรื่อง “นักร้องอย่างหล่อน”ที่เคยเขียนไว้มาแต่งเติมเขียนเป็นนวนิยายเรื่อง
“หางเครื่อง”โดยได้แรงบันดาลใจจากนักร้องชื่อนาง ว.
เมื่อพิจารณาประกอบกับประสบการณ์ของจำเลยที่เคยเป็นนักดนตรีนักร้องและคลุกคลีอยู่ในวงการบันเทิงจึงเป็นไปได้ที่จำเลยจะได้ซึมซับแนวคิดของโครงเรื่องในลักษณะที่เขียนในนวนิยายทั้ง
๒ เรื่อง
คือเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตของเด็กสาวในชนบทที่มีฐานะยากจนใฝ่ฝันที่จะเป็นนักร้องและต้องยอมมีความสัมพันธ์ทางเพศกับนักดนตรีและผู้สื่อข่าวบันเทิง
หลักการของกฎหมายลิขสิทธิ์ตามที่ปรากฎในมาตรา๖
ของพระราบัญญัติลิขสิทธิ์ ฑ.ศ.๒๕๓๗ กฎหมายลิขสิทธิ์คุ้มครองการแสดงออกของความคิดแต่มิได้คุ้มครองความคิดหรือแนวคิด
จำเลยนำพยานผู้มีความรู้เชี่ยวชาญในงานวรรณกรรม๔ ปาก มานำสืบให้เห็นได้ว่า
นวนิยายทั้งสองเรื่องมีเพียงโครงเรื่องหรือแก่นของเรื่องที่คล้ายกันเท่านั้นและไม่อาจสรุปได้ว่าจำเลยลอกเลียนผลงานของโจทก์เมื่อพิจารณาคำเบิกความของพยานจำเลยดังกล่าวประกอบเหตุผลที่ว่าโครงเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตของหญิงสาวที่มีฐานะยากจนใฝ่ฝันที่จะเป็นนักร้องและยอมมีความสัมพันธ์ทางเพศกับหัวหน้าวงดนตรีและผู้สื่อข่าวบันเทิงนั้นเป็นลักษณะของชีวิตที่ปรากฎให้เห็นได้ในธุรกิจบันเทิงเมื่อจำเลยนำสืบว่าเขียนนวนิยายเรื่องนี้จากชีวิตและประสบการณ์ของนักร้องชื่อนางว.และนาง
ว.ได้มาเบิกความรับรองข้อกล่าวอ้างของจำเลยพยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักดีกว่าพยานหลักฐานของโจทก์
ฟังได้ว่าจำเลยสร้างสรรค์ผลงานด้วยการประพันธ์นวนิยายเรื่อง“หางเครื่อง”โดยไม่ได้คัดลอกหรือเลียนงานวรรณกรรมเรื่อง
“ไฟพระจันทร์”ของโจทก์จำเลยจึงไม่ได้ทำการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์
หมายเหตุ(พยานหลักฐานของโจทก์เป็นการสรุปเปรียบเทียบส่วนที่คล้ายกันของนวนิยายที่แสดงผ่านออกทางข้อเขียนเป็นตัวหนังสือรวม๒๒
จุด เป็นเพียงการวิเคราะห์และสรุปด้วยความเห็นของโจทก์เท่านั้นโจทก์หาได้นำผู้เชี่ยวชาญในงานวรรณกรรมมาสืบสนับสนุนบทสรุปและความเห็นดังกล่าวของโจทก์ไม่จึงทำให้พยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักดีกว่าพยานหลักฐานของโจทก์)