ลิขสิทธิ์ ศิลปประยุกต์
ปัญหาความคาบเกี่ยวระหว่างลิขสิทธิ์
เครื่องหมายการค้า และสิทธิบัตร บางประเทศเมื่อต้องการคุ้มครองงานในประเภทใดแล้วก็ควรตัดสิทธิในงานอีกประเภทหนึ่งซึ่งแนวนี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาแต่อีกแนวหนึ่งคุ้มครองสิทธิความคาบเกี่ยวคือไม่สินสิทธิไป
ศาลไทยเองยังไม่เคยวินิจฉัยในปัญหานี้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ศาลฎีกาได้ให้คำตอบในเรื่องนี้แล้ว
โดยความเป็นมา โจทก์พยายามที่จะเอาคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๖๓๗๙/๒๕๓๗ มาปรับใช้
โดยโจทก์พยายามนำสืบว่าเมื่อเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์แล้วแม้จะเอาไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าความเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ยังคงมีอยู่ไม่สูญสิ้นไป
พยานหลักฐานที่โจทก์นำเสนอ คือ คดีของศาลอเมริกา และความเห็นของอาจาร์ธัชชัย
ศุภผลศิริ ผู้แต่งตำราลิขสิทธิ์ และคุณปัจฉิมา ธนสันติ ผู้เชี่ยวชาญด้านลิขสิทธิ์
กรมทรัพย์สินฯ แต่เป็นที่น่าเสียดาย ศาลฎีกา ไม่ได้วินิจฉัยปัญหานี้โดยละเอียด
(เท่าที่อ่านวันนี้ ๑๙/๐๖/๒๕๕๓) สำนักงานศาลยุติธรรม ยังไม่ตีพิมพ์ฏีกานี้
อาจจะมีหมายเหตุท้ายฎีกาให้ได้นำเสนอต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
๕๒๐๒/๒๕๕๒
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า
ภาพกราฟฟิครูปประกายดาว
ภาพกราฟฟิคบูลเพาเวอร์ ภาพวาดภาพประกอบต่าง ๆ
เป็นงานสร้างสรรค์รูปทรงที่ประกอบด้วยเส้น แสง สี
จึงเป็นเพียงงานศิลปกรรมประเภทงานจิตรกรรมหาใช่งานอันมีลิขสิทธิ์ไม่
เนื่องจากโจทก์ที่ ๒
ได้ว่าจ้างผู้สร้างสรรค์งานศิลปกรรมดังกล่าวก็เพื่อนำกราฟฟิคประกายดาวไปใช้เป็นฉากหลังของเครื่องหมายการค้ารูปกระกอบเครื่องหมายการค้าอันนำไปจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าบรีสเพาเวอร์ตั้งแต่เริ่มแรกและนำภาพกราฟฟิคบูลเพาเวอร์
ตลอดจนภาพวาดและภาพประกอบต่าง ๆ ไปใช้เป็นรูป รอยประดิษฐ์
ในการประกอบการค้าของโจทก์ทั้งสองตั้งแต่เริ่มแรกด้วยการทำให้ปรากฎที่หีบห่อบรรจุภัณฑ์สินค้าผลซักฟอก
การกระทำของโจทก์ทั้งสองหาได้มีจุดประสงค์มุ่งที่ใช้จำหน่ายเสนอจำหน่ายโฆษณาหรือชื่นชมในคุณค่าซึ่งงานศิลปกรรมดังกล่าวอย่างงานศิลปกรรมเป็นสำคัญแต่อย่างใด
งานสร้างสรรค์ของโจทก์ที่ ๒ ดังกล่าวจึงไม่อาจจัดได้ว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์โต้แย้งว่า
ภาพกราฟฟิครูปประกายดาว ภาพกราฟฟิคบูลเพาเวอร์ และภาพวาดภาพประกอบต่าง ๆ
เป็นงานที่สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นงานสร้างสรรคอันก่อให้เกิดความชื่นชมในคุณค่าของตัวงานจิตรกรรมตามจินตนาการของตนโดยใช้ความรู้ความสามารถตามสมควรแล้วเมื่องานที่สร้างสรรนี้เข้าลักษณะงานศิลปกรรมประเภทจิตกรรมก็ย่อมได้รับความคุ้มครองแม้ต่อมาจะมีการโอนงานไปให้โจทก์ที่
๒ และโจทก์ที่ ๒
จะนำงานดังกล่าวไปเป็นฉากหลังของเครื่องหมายรูปประกอบเครื่องหมายการค้าและนำไปจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าบรีสเพาเวอร์
และนำภาพกราฟฟิคบูลเพาเวอร์ ตลอดจนภาพวาดและภาพประกอบต่าง ๆ
ไปใช้เป็นรูปรอยประดิษฐ์ในการประกอบการค้าของโจทก์ทั้งสอง
ด้วยทำให้ปรากฎที่หีบห่อบรรจุภัณฑ์สินค้าผงซักฟอกก็ตาม
งานดังกล่าวก็ยังคงเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์อยู่เช่นเดิม
แม้จะมิได้มีจุดประสงค์มุ่งที่จะใช้จำหน่ายเสนอจำหน่ายโฆษณาหรือชื่นชมในคุณค่าซึ่งงานศิลปกรรมดังกล่าวอย่างงานศิลปกรรม
นอกจากนี้ ไม่มีบทบัญญัติใดในพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ ที่ระบุว่า
งานที่สร้างสรรค์ที่เป็นงานศิลปกรรมจะต้องมีจุดมุ่งหมายสร้างสรรค์เพื่อการชื่นชมงานอย่างศิลปกรรมแต่เพียงอย่างเดียวถึงจะเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์
ฉะนั้น แม้งานศิลปกรรมดังกล่าวสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยจุดมุ่งหมายที่จะนำไปใช้เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเป็นรูปรอยประดิษฐ์หรือข้อความในการประกอบการค้าหรือแบบผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เริ่มแรกโดยหามีจุดประสงค์มุ่งที่จะใช้จำหน่ายเสนอจำหน่ายหรือชื่นชมในคุณค่าซึ่งงานศิลปกรรมดังกล่าวอย่างงานศิลปกรรมก็ตามแต่ถ้าหากงานศิลปกรรมดังกล่าวเข้าลักษณะงานประเภทจิตรกรรมแล้ว
งานดังกล่าวย่อมเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ได้เช่นกันไม่ว่างานนั้นจะมีคุณค่าทางศิลปกรรมหรือไม่ก็ตาม
ศาลฎีกาวินิจฉัยในปัญหานี้ว่า
งานที่จะได้รับความคุ้มครองในลักษณะงานศิลปกรรมนั้น
แม้กฎหมายจะไม่ได้มุ่งประสงค์ให้งานนั้นต้องมีคุณค่าทางศิลปแต่ก็ต้องเป็นงานที่ถูกสร้างสรรขึ้นด้วยตนเอง(Originality)ในลักษระที่ควรจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย หาใช่เป็นเพียงงาน(Work)ซึ่งทำขึ้นโดยทั่วไปเท่านั้น
ภาพกราฟฟิครูปประกายดาวแม้จะมีความแตกต่างจากรูปประกายอื่น ๆ
แต่ความแตกต่างดังกล่าวยังเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยและไม่เป็นสาระสำคัญถึงขนาดที่จะเป็นงานสร้างสรรค์(Original)อันควรได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยมานั้น
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วยในผล
อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองในส่วนนี้ฟังไม่ขึ้น
ส่วนภาพกราฟฟิคบูลเพาเวอร์
แม้จะเป็นรูปทรงกลมอันเป็นรูปทรงเรขาคณิตทั่วไปแต่ก็เป็นงานสร้างสรรค์รูปทรงที่ประกอบด้วยเส้นและสีโดยไม่ปรากฎว่าได้ลอกเลียนหรือดัดแปลงมาจากงานที่มีอยู่เดิมจึงแสดงให้เห็นถึงความสร้างสรรค์(Original)ที่สร้างขึ้นด้วยตนเองงานดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นงานศิลปกรรมลักษณะงานจิตรกรรมอันได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.๒๕๓๗ แล้ว แม้ต่อมาจะมีการนำงานนี้ไปใช้ในทางการค้า
ก็ไม่เป็นเหตุให้งานดังกล่าวขาดคุณสมบัติที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยมานั้น
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่เห็นพ้องด้วย
อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองในส่วนนี้ฟังขึ้น
สำหรับภาพวาดและคำบรรยาย
"สูตรมาตรฐาน สำหรับซักมือ"
ภาพวาดรูปมือมีลักษณะของการจัดวางมือทั้งสองข้างที่จับอยู่บนเสื้อ ซึ่งเป็นงานสร้างสรรค์รูปทรงที่ประกอบด้วยเส้นและสีเมื่อไม่ปรากฏว่าได้ลอกเลียนหรือดัดแปลงมาจากงานที่มีอยู่เดิมจึงแสดงให้เห็นถึงความสร้างสรรค์(Original)ที่สร้างขึ้นด้วยตนเองงานดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นงานศิลปกรรมลักษณะงานจิตรกรรมอันได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.๒๕๓๗ แล้ว แม้ต่อมาจะมีการนำงานนี้ไปใช้ในทางการค้า
ก็ไม่เป็นเหตุให้งานดังกล่าวขาดคุณสมบัติที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเช่นกัน
อย่างไรก็ตามข้อความที่ว่า "สูตรมาตรฐาน สำหรับซักมือ"
เป็นเพียงคำสามัญทั่วไปที่ระบุถึงคุณสมบัติสินค้าผงซักฟอก ทั้งลักษณะที่ใช้ก็มุ่งเน้นที่จะสื่อให้เห็นถงคุณสมบัติของสินค้ามากกว่าที่จะสร้างคำบรรยายดังกล่าวในแง่ของงานศิลปกรรมลักษณะงานจิตรกรรมในตัวเอง
จึงไม่อาจได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
แม้นำมาประกอบกับรูปมือและประสงค์จะใช้เป็นงานชิ้นเดียวกันแต่ก็เห็นได้ว่าในการสร้างงานขึ้นมานี้
ภาพวาดกับคำบรรยายดังกล่าวสามารถแยกส่วนออกจากกันได้อย่างชัดเจน
ในส่วนของคำบรรยายจึงไม่ได้รับความคุ้มครองในลักษณะของงานศิลปกรรมลักษณะจิตรกรรมทั้งภาพ
อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองในส่วนนี้ฟังขึ้นบางส่วน
สำหรับประเด็นเกี่ยวกับศิลปประยุกต์นั้น
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง วินิจฉัยว่า โจทก์ที่ ๒
มิได้นำงานศิลปกรรมดังกล่าวมาประยุกต์นำไปใช้ประโยชน์ใช้สอยหรือนำไปตกแต่งวัสดุหรือสิ่งของอันเป็นเครื่องใช้ไม้สอยได้แต่ละอย่างในตัวของงานศิลปกรรมอย่างงานศิลปกรรมนั้น
ๆ เอง ดังเช่น ภาพการ์ตูนช้างก้านกล้วยหากนำไปหล่อเป็นคริสตัลที่ทับกระดาษเล็ก ๆ
โดยชื่นชอบภาพการณ์ตูนช้างและที่ทับกระดาษอย่างงานศิลปกรรมหรือศิลปประยุกต์
แต่คดีนี้ โจทก์ที่ ๒ คงมีจุดประสงค์นำรูปรอยประดิษฐ์ภาพประกอบต่าง ๆ
และข้อความไปใช้สอยตกแต่งทำให้ปรากฎบนบรรจุภัณฑ์สำหรับหีบห่ออย่างรูปรอยประดิษฐ์เพื่อประกอบการค้าของโจทก์ที่
๒ โดยตรงเท่านั้น ด้วยเหตุนี้งานออกแบบซอยบรรจุภัณฑ์บรีสเพาเวอร์
หรือวัตถุพยาน(ซองบรรจุผงซักฟอก)จึงไม่อาจจัดว่าเป็นงานศิลปกรรมประเภทงานศิลปประยุกต์ได้
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์โต้แย้งว่า
เมื่องานภาพกราฟฟิครูปประกายดาว ภาพกราฟฟิคบลูเพาเวอร์ ภาพวาดและภาพประกอบต่าง ๆ
เป็นงานสร้างสรรค์ลักษณะงานศิลปกรรมประเภทงานจิตรกรรมอันเป็นงานลิขสิทธิ์ที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.๒๕๓๗ มาตรา ๔
เมื่อโจทก์ทั้งสองนำงานดังกล่าวมารวมเข้ากันโดยทำการรวบรวมจัดวางงานขึ้นใหม่ให้มีรูปแบบแตกต่างไปจากงานของบุคคลอื่นอันมีลักษระเฉพาะโดดเด่นเป็นที่ดึงดูดสะดุดตาสะดุดใจแก่ผู้พบเห็นและกระตุ้นให้เกิดจินตนาการถึงความขาวสะอาดด้วยความรู้ความสามารถตามสมควรของตนโดยมิได้ลอกเลียนมาจากงานของผู้อื่นและได้ลงทุนไปกับงานที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่จำนวนมาก
งานที่เกิดขึ้นใหม่นี้จึงเป็นงานศิลปกรรมประเภทศิลปประยุกต์
แม้โจทก์ทั้งสองมีจุดประสงค์นำรูปรอยประดิษฐ์ภาพประกอบต่าง ๆ
และข้อความไปใช้สอยตกแต่งทำให้ปรากฎบนบรรจุภัณฑ์สำหรับหีบห่ออย่างรูปรอยประดิษฐ์เพื่อประกอบการค้าของตนโดยตรงมิได้นำงานศิลปกรรมดังกล่าวมาประยุกต์นำไปใช้ประโยชน์ใช้สอยหรือนำไปตกแต่งวัสดุหรือสิ่งของอันเป็นเครื่องใช้ไม่สอยได้แต่ละอย่างในตัวของงานศิลปกรรมอย่างงานศิลปกรรมนั้น
ๆ เองก็ตาม
ศาลฎีกาวินิจฉัยในปัญหานี้ว่า
งานออกแบบซองบรรจุภัณฑ์ เป็นงานศิลปประยุกต์ หรือไม่ โดยวินิจฉัยว่า
วัตถุประสงค์ของการให้ความคุ้มครองงานศิลปประยุกต์จึงหมายถึงการนำงานศิลปกรรมลักษณะงานต่าง
ๆ
มาใช้ในลักษณะที่เกิดประโยชน์อย่างอื่นนอกเหนือจากการชื่นชมในคุณค่าของตัวงานดังกล่าวสำหรัยคดีนี้
เมื่อรับฟังว่า
ภาพกราฟฟิคบลูเพาเวอร์กับภาพวาดรูปมือเป็นงานศิลปกรรมลักษณะงานจิตรกรรมและภาพกราฟฟิคบลูเพาเวอร์กับภาพวาดรูปมือดังกล่าวถูกนำไปใช้ประกอบกันบนซองบรรจุภัณฑ์เพื่อประกอบเครื่องหมายการค้าภาพและข้อความอื่น
ๆ อันเป็นการนำเอางานศิลปกรรมไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า
การออกแบบซองบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวจึงเป็นงานศิลปประยุกต์
ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยมานั้น
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ไม่เห็นพ้องด้วย
อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองฟังขึ้น