เมื่อพบว่าถูกหลอกขายสินค้าและผู้ซื้อ "ไม่ได้รับสินค้า" เราสามารถแจ้งธนาคารเพื่อระงับธุรกรรมชั่วคราวได้หรือไม่?

รบกวนไขข้อสงสัยดังต่อไปนี้ค่ะ



1. เมื่อเราถูกหลอกขายสินค้าผ่านทาง Facebook  โดยเราโอนเงินค่าสินค้าให้กับผู้ขายแล้ว แต่ไม่ได้รับสินค้าจากผู้ขาย และเราพบว่าผู้ขายมีเจตนาหลอกลวงเพื่อเอาเงินจากเราตั้งแต่แรก ถือเป็น"การฉ้อโกง" หรือไม่



2. ถ้าข้อที่1 คือ"การฉ้อโกง" ดังนั้น ผู้ขายในข้อที่1.เข้าข่ายกระทำความผิดเป็น"อาชญากรรมทางเทคโนโลยี"ตาม พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี2566 หรือไม่?



โดยมาตรา3 ในพรก.ฉบับนี้กำหนดว่า "อาชญากรรมทางเทคโนโลยี" หมายความว่า การกระทำหรือพยายามกระทำความผิดตามกฏหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพื่อฉ้อโกง กรรโชก หรือรีดเอาทรัพย์บุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือโดยประการที่น่าจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย หรือกระทำความผิดฐานฉ้อโกง กรรโชก หรือรีดเอาทรัพย์ โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ



3. ถ้าข้อที่ 2 คือ"อาชญากรรมทางเทคโนโลยี" เราสามารถแจ้งธนาคารเพื่อระงับธุรกรรมชั่วคราวตามมาตรา7 ของพรก.ฉบับนี้ได้หรือไม่?



มาตรา7 ในพรก.ฉบับนี้กล่าวว่า ในกรณีที่สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ถือบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ว่า ได้มีการทำธุรกรรมโดยบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวและเข้าข่ายเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวมีหน้าที่ระงับการทำธุรกรรมนั้นไว้ชั่วคราว พร้อมทั้งนำข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือกระบวนการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลตามมาตรา4 เพื่อให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจผู้รับโอนทุกทอดทราบและระงับการทำธุรกรรมดังกล่าวไว้ทันที และแจ้งให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเจ็ดสิบสองชั่วโมง เมื่อมีการร้องทุกข์แล้ว ให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับการทำธุรกรรมไว้ทราบ และให้พนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากและบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งความร้องทุกข์ หากไม่มีคำสั่งให้ระงับการทำธุรกรรมไว้ต่อไปภายในเวลาดังกล่าว ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจยกเลิกการระงับการทำธุรกรรมนั้น



4. จากเนื้อหามาตรา7 ในพรก.ฉบับนี้ นั่นคือ ธนาคารผู้โอนมีหน้าที่ประสานงานเพื่อ"อายัดการทำธุรกรรมไว้ชั่วคราว" โดยที่ธนาคารผู้โอนต้องนำข้อมูลเข้าสู่ระบบ หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับธนาคารผู้รับโอนทุกทอดทราบ เพื่อให้ธนาคารผู้รับโอน"อายัดธุรกรรมนี้ไว้ชั่วคราวโดยทันที" ตามพรก.ฉบับใหม่นี้ใช่หรือไม่?



5. ถ้าผู้เสียหาย(ผู้โอน)แจ้งธนาคารของผู้โอนให้ดำเนินการประสานงานกับทางธนาคารปลายทาง(ผู้รับโอน)เพื่อช่วย "อายัดธุรกรรมนี้ไว้ชั่วคราวโดยทันที" แต่ธนาคารของผู้เสียหาย(ผู้โอน)ปฏิเสธการดำเนินการประสานงานกับธนาคารผู้รับโอนเพื่อ "การอายัดธุรกรรมชั่วคราวโดยทันที" นี้โดยให้เหตุผลว่าการถูกหลอกซื้อสินค้าผ่านทางFacebookโดยไม่ได้รับสินค้านั้น ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคารของผู้โอน(ผู้เสียหาย) โดยธนาคารผู้โอนให้เหตุผลว่าการถูกหลอกลวงตามข้อ1.นั้นไม่เข้าข่าย พรก.มาตการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.๒๕๖๖( พรก.ฉบับใหม่) คำถาม "ธนาคารของผู้โอน(ผู้เสียหาย)ไม่ให้ความร่วมมือต่อ พรก.ฉบับใหม่นี้อยู่หรือไม่"



6. ถ้าข้อ5.คือ"ใช่" ธนาคารผู้โอน(ผู้เสียหาย)ควรได้รับลงโทษอย่างไร ที่ไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหาย(ผู้โอน,เจ้าของบัญชี)ในประสานงานระหว่างธนาคารเพื่อ"อายัดธุรกรรมนี้ไว้ชั่วคราวโดยทันที" นี้