ฟ้องแพ่งพร้อมอาญา

1. ประมาณเดือนมีนาคม-สิงหาคม 57 มีเพื่อนให้ชักชวนลงทุนในการซื้อนาฬิกา และกระเป๋าแบรนด์เนมในราคาสูง โดยบอกว่าเขามีลูกค้าสั่งซื้อ โดยเขาจะเป็นผู้จัดหาสินค้า ให้ผมเป็นผู้ร่วมทุน โดยแบ่งผลตอบแทนตามอัตราส่วนที่ลงทุน

2. การชักชวนลงทุนจะมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยผมจะได้เงินคืนบางส่วนที่เขาโอนมาให้ แต่เพียงวันรุ่งขึ้นหรือไม่กี่วันเขาจะมีรายการสินค้าเข้ามาอีก และดึงเงินกลับไป และต้องลงทุนเพิ่มเข้าไปอีก (3 ครั้งแรกลงทุนอย่างเดียวไม่ได้เงินคืนเลย)

3. การลงทุนทั้งสิ้น 13 ครั้ง จนผมขอหยุด เขาเลยบอกว่าสินค้าครั้งที่ 13 ลูกค้าไม่มารับของยังขายไม่ได้

4. ผมขอให้เขาชำระยอดที่ลงทุนพร้อมผลตอบแทน โดยเขาออกเช็คส่วนตัวให้พร้อมทั้งเงินลงทุนและผลตอบแทน

5. สิงหาคมผมทราบว่าเขาหลอกลวงคนอีกหลายคนเป็นเงินหลายล้านบาท และหย่ากับสามีแล้ว

6. 1 ต.ค. 58 ผมแจ้งความคดีฉ้อโกง อัยการสั่งฟ้องข้อหาฉ้อโกงเฉพาะยอดที่ลงทุน ไม่รวมผลตอบแทน ตอนนี้สืบพยานโจทย์เสร็จ อยู่ในขั้นสืบจำเลย แต่เขาแถลงเป็นเอกสาร เราแค่ได้ถามติง (ทนายผมยื่นคำร้องค้านไป แต่อัยการไม่ค้าน)

7. วันสั่งจ่ายเช็คผมนำเช็คไปขึ้นธนาคารปฏิเสธการจ่ายเนื่องจากลายเซ็นไม่เหมือน (เขายอมรับว่าจ่ายเช็คในคดีฉ้อโกง) ผมไปแจ้งความ อัยการส่งฟ้อง ยอดตามเช็ค (รวมเงินลงทุนกับผลตอบแทน) ตอนนี้อยู่ในขั้นนัดสืบเดือนกันยายน



ปัญหาที่ขอถามคือ

1. คดีเช็ค ผมสามารถฟ้องแพ่งไปด้วยเลยหรือเปล่า เพราะเช็คมีอายุความ 1 ปี เช็คสั่งจ่ายครบ 1 ปีเดือนธันวาคมนี้แล้ว

2. อัยการกับผู้พิพากษามีความคิดเห็นต่างกัน ฝ่ายหนึ่งบอกไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งบอกได้ อ้างฎีกา คนละอันกัน

3. ฝ่ายหนึ่งบอกว่าสามารถยื่นแพ่งพร้อมอาญาได้ อีกฝ่ายบอกให้ยื่นฟ้องแพ่งต่างหาก ตกลงต้องทำอย่างไร