มีโอกาสเอาผิดคู่กรณีได้มั้ย

โดย: บอมๆ [IP: 171.99.154.xxx]
เมื่อ: 2024-03-23 09:42:44
เรื่องคือ คนข้างบ้านซึ่งเป็นญาติอยู่บ้านคนละหลังเดินมาเตือนเรื่องแสงไฟ1ครั้ง และ เสียงเพลง 1 ครั้ง พอเรากลับมาแฟนเรารู้เรื่องแฟนเราเลยเดินไปที่หน้าบ้านเค้าถามว่ามีอะไรเพราะตอนเค้าเดินมาเราไม่อยู่ ยังพูดไม่จบเค้าก้อเอามีดมาฟันหัวแฟนเรา แฟนเราเลยพลักเค้าทุกอย่างชุลมุนอยู่ในบ้านเค้า แล้วมีน้องอีก2คนเข้ามาช่วยห้ามและแย่งมีด เราเองก้อพยายามห้าม สุดท้ายแล้วทางเราถูกเค้าแทงและฟัน4คน เจ็บนอนรพ. 3 คน ส่วนเค้านิ้วขาด1ข้อนิ้ว น่าจะเกิดจากการแย่งมีดกัน เค้าไปแจ้งความว่าเรา บุกรุก ทำร้าย อย่างนี้เอาผิดเคาได้บ้างมั้ยตัวเราเป็นผู้หญิงเหตุสงบแล้วทุกคนได้รับบาดเจ็บเค้าไม่หยุดแทงเราเข้าไปห้ามให้เค้าหยุดแต่เค้าก้อแทงเราด้วย
#1 โดย: มโนธรรม [IP: 49.228.49.xxx]
เมื่อ: 2024-03-23 11:45:13
การรับโทษทางอาญา

ตามข้อเท็จจริง การไปเกิดเหตุในบ้านของคู่กรณี ฝ่ายเราก็ค่อยข้างเสียเปรียบ เขาจึงได้โอกาสแจ้งความข้อหา บุกรุก และทำร้ายร่างกาย...ตามข้อเท็จจริง ต่างฝ่ายก็ต่างทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ตามแนวคำพิพากษาของศาลฎีกา ถือว่า เป็นการสมัครใจทะเลาะวิวาท คือไม่มีผู้เสียหาย ตำรวจก็คงตั้งข้อหาทั้งสองฝ่าย ในข้อหาทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ถ้าเพียงบาดเจ็บ คงถูกตั้งข้อหา ตาม ปอ. ม.295 คือทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ มีโทษจำคุก ไม่เกินสองปีปรับไม่เกิน สี่หมื่นบาทฯ ....ถ้าเป็นอันตรายสาหัส ตาม ปอ. ม.297 เช่น เสียแขน ขา มือฯ หรือรักษาฯเกินกว่า 20 วันมีโทษจำคุก 6เดือนถึง 10 ปี ปรับหนึ่งหมื่นบาทถึงสองแสนบาท...จะถูกตั้งข้อหาใดบ้าง ก็อยู่ที่ผลการสืบสวนและสอบสวนของตำรวจ ประกอบความเห็นของแพทย์เป็นสำคัญ...ส่วนข้อหาบุก(ถ้าเป็นเวลากลางวัน) มีโทษจำคุก ไม่เกินหนึ่งปี ปรับ สอง หมื่นบาท (ปอ.ม.362) เป็นคดีที่สามารถยอมกันได้ แต่ถ้าบุกรุกมีการขู่เข็ญ มีอาวุธ หรือในเวลากลางคืน ตาม ปอ. ม.365 มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับหนึ่งแสนบาท..ความผิดตาม ม.365 ยอมความไม่ได้...ฝ่ายท่านผู้ถาม ย่อมอยู่ในฐานะเสียเปรียบ เพราะเหตุเกิดที่บ้านของคู่กรณี ในทางปฏิบัติ ตำรวจคงตั้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นทั้งสองฝ่าย และตั้งข้อหาบุกรุก แก่ฝ่ายผู้ถามอีกข้อหาหนึ่ง คดีแบบนี้ เรียกว่าคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา คือมีการเรียกค่าเสียหายกัน และมีความผิดตามกฏหมาย คือมีโทษจำคุกและปรับ ถ้าสามารถเจราจาเรื่องค่าเสียหายกันลงตัว เรื่องทางแพ่งก็จบไป ส่วนคดีอาญา (ทำร้ายร่างกาย และบุกรุก ) ตำรวจคงสรุปสำนวนส่งอัยการ เพื่อฟ้องศาล ถ้ามีการเจรจาค่าเสียหายกันได้ลงตัว และต่างฝ่ายไม่คิดต่อสู้คดี และให้การรับสารภาพ ศาลคงปรานี ลงโทษสถานเบา ทั้งสองฝ่าย อาจจะรอการลงโทษไว้ (คือมีโทษแต่ไม่ถุูกจำคุก ให้คุมประพฤติ) ตาม ปอ. ม.56 ม.78...แต่ถ้่าต่างฝ่ายมีทิฐิ ไม่ยอมเลิกลากัน ต่างอ้างตนไม่ผิด คงต้องมีการสืบพยานกันยาวนาน อาจข้ามเดือน ข้ามปี สุดท้ายคือบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย คือเสียค่าใช้จ่าย และเสียเวลาทำมาหากินทั้งสองฝ่าย ดังนั้นอย่าไปเชื่อคำยุยงของผู้หวังดี แต่ประสงค์ร้าย ให้สู้คดีกัน อะไรพอยอมกันก็ยอมกันไปเถิด เพราะความยุติธรรม มันไม่เคยมีในโลกนี้ ดังนั้นอย่าเสาะแสวงหาให้เหนื่อยยากเลย ด้วยความปรารถนาดี ครับ

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 124,068