ช่วยทำการบ้านหน่อยครับ

โดย: Oak [IP: 223.205.246.xxx]
เมื่อ: 2024-08-28 22:15:35
นางเอเป็นเจ้าของที่ดินมือเปล่าแปลง 1 นางอ้อยบุกรุกเข้าไปปลูกบ้านในที่ดินของ

นางเอกเมื่อนางเอแจ้งให้นางอ้อยรื้อถอนบ้านออกไปจากที่ดินของตนเองนางอ้อยกลับโต้แย้งว่าที่ดินดังกล่าว

อยู่บนเขตทางหลวงและไม่ยอมรื้อถอนบ้านออกไปจนเวลาผ่านไป 1 ปี 2 เตือนนายเอจึงมาฟ้องร้องต่อศาลเพื่อ

เรียกที่ตินคืนจากนางอ้อย
#1 โดย: มโนธรรม ผู้เฒ่า [IP: 184.22.223.xxx]
เมื่อ: 2024-08-29 12:35:01
การครอบครอง

ตามข้อเท็จจริง นาง เอ ย่อมได้สิทธิครอบครอง ตาม ปพพ. ม.1367 ม.1368 ม.1369 ม.1370 คือผู้ครอบครองย่อมมีสิทธิดีกว่าบุคคลอื่น...นางเอ จึงมีอำนาจฟ้อง ให้นางอ้อยอกจากที่ดินได้... แต่ถ้าคู่กรณีเป็นรัฐ(ส่วนราชการ) นาง เอ มีหน้าที่ต้องพิสูจน์ว่า ที่ดินแปลงนี้ไม่ใช่ที่สาธารณะ...
แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเทียบเคียง
ฎีกาที่ 607/2506

ที่พิพาทเนื้อที่ 12 ไร่เศษ ไม่มีโฉนด เดิมเป็นของมารดาจำเลย มารดาจำเลยได้ยกที่พิพาทตีใช้หนี้เงินกู้ให้โจทก์ใน พ.ศ.2494 โจทก์จึงจ้างคนถางที่พิพาทจนเตียนหมด แล้วใน พ.ศ.2495 และ 2496 โจทก์ก็ทำนาและปลูกถั่วในที่พิพาท โดยทำนา 2 ไร่ ปลูกถั่ว 2 ไร่นอกนั้นเป็นที่ดอนน้ำไม่ถึง ปลูกอะไรไม่ได้ ดังนี้ถือได้ว่าเป็นการยึดถือโดยเจตนาเป็นเจ้าของโจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองที่พิพาทหมดทั้งแปลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367 ในปีต่อๆ มาจนถึง พ.ศ.2501 โจทก์และผู้ดูแลที่พิพาทแทนโจทก์ได้ปล่อยที่พิพาทว่างไว้เนื่องจากขาดน้ำ ทำผลประโยชน์ไม่ได้จะถือว่าโจทก์สละเจตนาครอบครองหรือไม่ยึดถือที่พิพาทตามมาตรา 1377 วรรคแรก หาได้ไม่ ต้องถือว่ามีเหตุชั่วคราวมาขัดขวางมิให้โจทก์เข้ายึดถือทำประโยชน์อันเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 1377 วรรคสอง การครอบครองของโจทก์จึงไม่สุดสิ้นลง(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 41/2505)

ฎีกาที่ 7/2539

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทและขอให้ศาลสั่งแสดงว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินโจทก์มีสิทธิครอบครองไม่ใช่ที่ดินสาธารณประโยชน์จำเลยให้การว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์เพราะเป็นที่ดินสาธารณะที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันโจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์และโดยที่จำเลยเป็นเจ้าพนักงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลสาธารณสมบัติของแผ่นดินแม้โจทก์ได้ครอบครองที่ดินพิพาทอยู่ก็ไม่ได้ประโยชน์จากข้อสันนิษฐาน

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 179,841