หลักดินแดน

นายหรั่ง เดินทางไปท่องเที่ยว ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินพิราบแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินสัญชาติไทยระหว่างเดินขึ้นเครื่อง นายหรั่ง ได้เจอกับ นายแอล คู่อริที่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนตั้งแต่อดีต นายแอล จ้องมองไปที่นายหรั่ง พร้อมกับกล่าวว่า "มึงอย่ามาซีเล็ง เดี๋ยวชู้หลิ่ง" ซึ่งนายหรั้งก็ไม่มีท่าทีตอบกลับและทำท่าเรียบเฉย ต่อมาเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ขณะเครื่องบินบินอยู่เหนือมหาสมุทรแปซิฟิก นายหรั่งตัดสินใจเดินไปเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่าเห็น นายแอล นั่งอยู่ใกล้กับห้องน้ำพอดี จึงได้เข้าไปสาวหมัดเข้าไปที่ใบหน้าของนายแอลจนสลบลงทันที เนื่องจากไม่พอใจเรื่องที่ถูกเหยียดหยามต่อหน้าสาธารณชน จากนั้นเหตุการณ์วุ่นวาย ก็ยุติลงเพราะลูกเรือสายการบินและผู้โดยสารเข้ามาห้ามปรามนายหรั่งเอาไว้ข้อเท็จจริงต่อมา วันเดินทางกลับ นายหรั่ง กับ นายแอล บังเอิญพบเจอกันอีกครั้ง ทั้งสองได้ใช้บริการสายการ บินพิราบแอร์ไลน์เหมือนเดิม แต่คราวนี้ นายแอล ได้เข้าไปพยายามขอโทษกับสิ่งตนเองได้ทำกับนายหรั่งตอนอยู่ที่ไทย พร้อมกับให้ขนมแก่นายหรั่งเป็นการขอโทษ ส่วนนายหรั่งก็ไม่ติดใจและขอโทษนายแอลที่ตนได้ทำร้ายจนสะง่อมบนเครื่องบิน อย่างไรก็ดี ความจริงกลับปรากฏว่า ขนมที่นายแอลนำมาให้นายหรั่ง เป็นขนมปนเปื้อนพิษจากปลาปักเป้า ซึ่งนายแอลตั้งใจนำมาให้นายหรั่งกินเพราะต้องการแก้แค้น โดยวางแผนไว้แล้ว ว่า พิษจะออกฤทธิ์เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ซึ่งนายหรั่งได้กินขนมดังกล่าวตั้งแต่อยู่ที่สนามบินกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น และเมื่อเครื่องบินบินมาถึงน่านฟ้าประเทศไทย นายหรังก็มีอาการชัก นำลายฟูมปาก และเสีย ชีวิตลงทันทีบนเครื่องบิน

จงวินิจฉัย

(1) ถ้านายหรั่งไม่เสียชีวิต รัฐไทยสามารถดำเนินคดีอาญากับนายหรั่งจากกรณีที่เข้าทำร้ายร่างกายนายแอลได้หรือไม่ อย่างไร

(2) จากความตายของนายหรั่ง รัฐไทยสามารถดำเนินคดีอาญาลงโทษกับนายแอล ได้หรือไม่ อย่างไร