ทรัพย์บริษัทถือเป็นทรัพย์ที่มีกรรมสิทธ์ร่วมกันหรือไม่

โดย: teerapong [IP: 223.24.172.xxx]
เมื่อ: 2018-05-07 23:28:53
ผมเป็นกรรมการมีอำนาจลงนามในบริษัท ผมได้ย้ายแม่พิมพ์ของบริษัทไปประกอบการกิจการอีกที่หนึ่งซึ่งเช่าในนามบริษัท ต่อมาหุ้นส่วนกรรมการอีกคนหนึ่ง(บริษัทมีผู้ถือหุ้น 3 คน กรรมการ2คน คนใดคนนึงลงลายมือชื่อ) แจ้งความดำเนินคดีผมข้อหา "ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ" และออกหมายจับและหมายค้นยึดอาญัติในเวลาต่อมา ผมถามตำรวจว่าทำไมถึงแจ้งข้อหา"ลักทรัพย์" ตำรวจบอกว่า "คุณเอาทรัพย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมของคนอื่นไป"



คำถาม "ทรัพย์บริษัทถือเป็นทรัพย์ที่มีกรรมสิทธ์ร่วมกันหรือไม่" เพราะตำรวจแจ้งว่าเป็นอย่างนั้น ซึ่งในความเข้าใจของผม บริษัทเป็นนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมาย บริหารโดยกรรมการมีอำนาจตามหนังสือรับรองของบริษัท ดังนั้นทรัพย์บริษัทน่าจะเป็นของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว นอกเสียจากว่าบริษัทจดเลิกแล้วจึงแบ่งตามสัดส่วนผู้ถือหุ้น ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ ช่วยแนะนำด้วยหรือถ้ามีฎีกาสนับสนุนจะดีมากเลยครับ ขอบคุณครับ
#1 โดย: มโนธรรม [IP: 101.51.75.xxx]
เมื่อ: 2018-05-08 02:33:18
ลักทรัพย์
เมื่อถูกดำเนินคดี ควรมีทนายช่วยเหลืออย่างจริงจัง ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต่างๆที่กล่าวมา ก็ใช้เป็นข้อต่อสู้ได้...เคยตอบแล้ว...
#2 โดย: teerapong [IP: 223.24.174.xxx]
เมื่อ: 2018-05-08 12:23:22
ข้อเท็จจริงคือผมเป็นกรรมการมีอำนาจตามหน้าหนังสือรับรอง ที่ที่สำคัญผมเป็นคนสร้างแม่พิมพ์เองกับมือผมถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่ากรรมการอีกคน(แฟนเก่า)เขารู้อยู่แก่ใจเพราะเขาดูแลเรื่องอื่นเช่นบัญชี รับลูกค้าเพราะเขาเป็นผู้หญิงครับ ดังนั้นการแจ้งข้อหาลักลักทรัพย์ของตำรวจถูกต้องหรือไม่ครับรบกวนด้วยครับ
#3 โดย: มโนธรรม [IP: 101.51.75.xxx]
เมื่อ: 2018-05-08 17:00:37
เมื่อถูกดำเนินคดี
ก็ต้องไปรับทราบข้อกล่าวหา ให้ปากคำ ตำรวจก็จะสรุปสำนวนส่งอัยการ อัยการอาจจะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง คดีก็ยติ หรือถ้ามีความเห็น สั่งฟ้อง ก็ต้องไปต่อสู้คดีในชั้นศาล ข้อเท็จจริงต่างๆที่คุณบอกมา ก็นำไปเป็นข้อต่อสู้หักล้างในชั้นศาลได้ ถ้าเหตุผลของคุณมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ และการกระทำไม่ครบ องค์ประกอบของการลักทรัพย์ ก็คงรอด...เมื่อคดีเดินมาถึงจุดนี้ ตำรวจก็จะสอบสวนไปตามครรลอง และส่งอัยการ... ผู้ตอบก็คงไม่สามารถไปบอกได้ว่า คุณจะมีความผิดหรือไม่ เพราะเป็นทั้งปัญหาข้อเท็จจริง และปัญหาข้อกฎหมาย แม้จะบอกว่า คุณไม่มีความผิด ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะคดีีก็ต้องเดินไปตามครรลอง ของกระบวนการยุติธรรม และไปจบที่ศาล อาจไม่จบในศาลเดียวก็ได้...ดังนั้นคุณควรมีทนายความช่วยเหลือ อย่างจริงจัง การตอบปัญหาในที่นี้ เสมือนยาสามัญประจำบ้าน แก้ปวดหัวตัวร้อนเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ถ้าเป็นโรคร้ายแรงหรือต้องผ่าตัดใหญ่ คงต้องพบแพทย์เฉพาะทาง ด้วยความปรารถนาดี ครับ

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 123,750