ทำอย่างไรได้บ้าง

โดย: wer018 [IP: 101.109.255.xxx]
เมื่อ: 2021-07-25 16:18:24
เรียนท่านผู้มีความรู้กฎหมายทุกท่าน



กรณีของข้าพเจ้า ได้ช่วยเหลือ นาย ก. ในการฟ้องคดีแพ่งคดีหนึ่ง โดยในการทำสัญญาว่าจ้างทนายระหว่าง นาย ก. กับ ทนาย ข. ในวันที่ 12 มกราคม 2564 นั้น ข้าพเจ้าได้ช่วยออกเงินให้ นาย ก. ในการว่าจ้าง ทนาย ข. จำนวน 200,000 บาท โดยข้าพเจ้าเป็นผู้โอนเงินของข้าพเจ้า เข้าบัญชีธนาคารของ ทนาย ข. หลังจากวันทำสัญญาปรากฏว่า ทนาย ข. ไม่เคยมาพบ นาย ก. เลย เพียงแค่ไปยื่นคำร้องต่อศาลเท่านั้น และเมื่อถึงวันไต่สวนคำร้อง ปรากฏว่าติดต่อ ทนาย ข. ไม่ได้เลย จึงอยากทราบว่า



1. จะสามารถดำเนินการอย่างไร กับ ทนาย ข. ได้บ้างหรือไม่



2. หาก นาย ก. ไม่ยอมมอบอำนาจให้ข้าพเจ้าดำเนินการฟ้องร้องคดีแพ่ง หรือร้องเรียนต่อสภาทนายความ ข้าพเจ้าในฐานะผู้เสียหายที่ได้โอนเงินของข้าพเจ้าไปจริง จะสามารถดำเนินการฟ้องร้องคดีแพ่ง และร้องเรียนต่อสภาทนายความ ด้วยตนเองได้หรือไม่ (กรณี นาย ก. ไม่ยอมดำเนินการใด ๆ )



ขอขอบพระคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าครับ
#1 โดย: มโนธรรม [IP: 223.205.247.xxx]
เมื่อ: 2021-07-26 07:21:35
การจ้างทำของ

1. จะสามารถดำเนินการอย่างไร กับ ทนาย ข. ได้บ้างหรือไม่

1. ตอบ...เบื้องต้นใช้วิธีร้องสภาทนายความในจังหวัดก่อน ถ้าไม่คืบหน้าค่อยว่ากัน

2. หาก นาย ก. ไม่ยอมมอบอำนาจให้ข้าพเจ้าดำเนินการฟ้องร้องคดีแพ่ง หรือร้องเรียนต่อสภาทนายความ ข้าพเจ้าในฐานะผู้เสียหายที่ได้โอนเงินของข้าพเจ้าไปจริง จะสามารถดำเนินการฟ้องร้องคดีแพ่ง และร้องเรียนต่อสภาทนายความ ด้วยตนเองได้หรือไม่ (กรณี นาย ก. ไม่ยอมดำเนินการใด ๆ )

2. ตอบ แม้ไม่มีการมอบอำนาจ คุณถือเป็นผู้เสียโดยตรง หลักฐานการโอนเงิน ย่อมเป็นพยานหลักฐานได้ กรณีการจ้างว่าความ ตามกฎหมายเรียกว่า การจ้างทำของ แม้ไม่หลักฐานเป็นหนังสือ ก็ฟ้องร้องได้
#2 โดย: wer018 [IP: 223.24.144.xxx]
เมื่อ: 2021-07-26 14:24:20
ขอบพระคุณสำหรับคำตอบครับ
ขอสอบถามเพิ่มครับ อายุความในกรณีช้างต้น มีกำหรดกี่ปีครับ
#3 โดย: มโนธรรม [IP: 223.205.247.xxx]
เมื่อ: 2021-07-27 10:54:35
อายุความ

ตามข้อเท็จจริงที่บอกอาจจะเป็นทั้งปัญหาข้อเท็จจริง และปัญหาข้อกฎหมาย อายุความอาจจะแตกต่างกันไป ขอแจกแจงดังนี้

-ถ้าฟ้องตามสัญญาจ้างทำของ(ว่าความ) ต้องฟ้องภายใน 2 ปี นับแต่วันตกลงทำสัญญา (ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ เพียงตกลงด้วยวาจาก็ฟ้องได้) ตาม ฎีกาที่ 2326/2544
-ถ้าเป็นการผิดสัญญาทางแพ่ง คือตกลงแล้ว ไม่ทำตามข้อตกลง ต้องฟ้องภายในอายุความ 1 ปี
- ถ้าเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกง คือหลอกให้โอนเงินให้แล้ว ไม่ทำตามข้อตกลง เป็นคดีอาญาที่ยอมความได้ ต้องแจ้งความภายในสามเดือน เมื่อแจ้งความแล้ว สามารถฟ้องร้องได้ภายในอายุความ 10 ปี

เนื่องจากคู่กรณีเป็นนักกฎหมาย รู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี เมื่อถูกฟ้องร้อง คงหาช่องทางเอาตัวรอดได้ดีกว่าบุคคลทั่วๆไป จึงแจกแจงรายละเอียดให้เห็น เพื่อประกอบการตัดสินใจ และก่อนจะฟ้องร้องควรปรึกษารายละเอียดกับทนายความให้รอบด้านอีกที ด้วยความปรารถนาดี ครับ
#4 โดย: wer018 [IP: 101.109.255.xxx]
เมื่อ: 2021-07-27 12:21:48
2. หาก นาย ก. ไม่ยอมมอบอำนาจให้ข้าพเจ้าดำเนินการฟ้องร้องคดีแพ่ง หรือร้องเรียนต่อสภาทนายความ ข้าพเจ้าในฐานะผู้เสียหายที่ได้โอนเงินของข้าพเจ้าไปจริง จะสามารถดำเนินการฟ้องร้องคดีแพ่ง และร้องเรียนต่อสภาทนายความ ด้วยตนเองได้หรือไม่ (กรณี นาย ก. ไม่ยอมดำเนินการใด ๆ )

2. ตอบ แม้ไม่มีการมอบอำนาจ คุณถือเป็นผู้เสียโดยตรง หลักฐานการโอนเงิน ย่อมเป็นพยานหลักฐานได้ กรณีการจ้างว่าความ ตามกฎหมายเรียกว่า การจ้างทำของ แม้ไม่หลักฐานเป็นหนังสือ ก็ฟ้องร้องได้

ตามที่ท่านได้ตอบคำถามข้อนี้มานั้น ผมได้ไปปรึกษากับสภาทนายความแล้ว สภาทนายความแจ้งว่า หากผมไม่ได้รับมอบอำนาจจากคุณลุง ผมไม่สามารถดำเนินการได้ครับ
จึงอยากสอบถามท่านอีกครั้งหนึ่ง
#5 โดย: มโนธรรม [IP: 223.205.216.xxx]
เมื่อ: 2021-08-01 09:28:17
มุมมองและความเห็น

ที่สภาฯแนะนำ ก็ถือว่าถูกต้อง คือมองในเรื่องการจ้างว่าความ ถ้าผู้ว่าจ้างไม่ดำเนินการ หรือมอบอำนาจให้ คุณก็คงดำเนินการไม่ได้ เพราะคุณไม่ใช่ผู้เสียหาย....แต่ในมุมมองของผู้ตอบ การที่คุณโอนเงินให้ทนายความ ถือว่าคุณถูกฉ้อโกง คุณน่าจะเป็นผู้เสียหาย ในการแจ้งความดำเนินคดี และฟ้องร้องคดีได้เอง....หรือในอีกมุมองหนึ่ง คุณไม่ได้มีหน้าที่ต้องใช้หนี้ เรื่องการจ้างว่าความ แต่คุณไปโอนเงินให้เขาเอง ก็เข้าข่าย การใช้หนี้ตามอำเภอใจ คุณจึงเรียกเงินคืนไม่ได้ (ปพพ. 407) ซึ่งเรื่องนี้ ค่อนข้างเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ถ้าเข้าข่ายเรื่องนี้ คุณคงเจ็บพอสมควร....อย่างไรก็ตาม ตามความเห็น คุณควรแจ้งความดำเนินคดี ข้อหาฉ้อโกงไว้ก่อน...
#6 โดย: wer018 [IP: 223.24.153.xxx]
เมื่อ: 2021-08-01 15:37:39
ขอบพระคุณสำหรับคำตอบครับ ขอสอบถามเพิ่มเติมครับว่า
1. หากข้อเท็จจริงผมสามารถพิสูจน์ได้ว่าในวันทำสัญญา เงินค่าว่าจ้างตามสัญญาจ้างทำของเป็นเงินของผมจริง เพราะ นาย ก. ได้ทำสัญญากับผมอีกฉบับหนึ่งว่า ผมได้ออกเงินค่าจ้างทนาย จำนวน 200,000 บาท เป็นค่าจ้างทนายในศาลชั้นต้น ให้กับ นาย ก. ไปก่อน และนาย ก. จะชำระคืนให้เมื่อคดีที่ว่าจ้างทนายถึงที่สุด แต่เมื่อติดต่อทนาย ข.ไม่ได้ ทำให้เกิดความเสียหายแก่คดี ผมจะมีสิทธิร้องเรียนมรรยาททนายความ ทนาย ข ได้ไหมครับ
2. หากในวันทำสัญญาว่าจ้าง ทนาย ข. ไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกลวง คือตั้งใจว่าความให้ตามสัญญา แต่ภายหลังรับเงินค่าจ้างไปแล้ว กลับอ้างว่าไม่สามารถลงมาพบ นาย ก. ได้ เพราะตนเองเป็นโรคความดันสูงและอยู่ในช่วงโควิด และจากนั้นได้รับปากว่าจะมาพบ นาย ก. ก็ไม่ได้มาพบอีก จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ทั้งทางโทรศัพท์และทางไลน์ จะถือว่าเข้าองค์ประกอบฐานฉ้อโกงไหม และข้าพเจ้าในฐานะผู้ออกเงินให้นาย ก. ไปก่อนมีสิทธิแจ้งความร้องทุกข์ได้ไหม หากนาย ก. ไม่ยอมดำเนินการ (และ นาย ก. ไม่มีเงินมาจ่ายคืนข้าพเจ้าด้วย เพราะคดีเสียหายจากการกระทำของ ทนาย ข. )
3. หากข้าพเจ้าถือเป็นผู้เสียหายฐานฉ้อโกง ข้าพเจ้าจะแจ้งความที่โรงพักที่ข้าพเจ้ามีภูมิลำเนาอยู่จะได้ไหมครับ หรือต้องแจ้งความที่โรงพักใด
#7 โดย: มโนธรรม [IP: 223.205.216.xxx]
เมื่อ: 2021-08-02 09:22:15
การกู้ยืมเงิน

1. หากข้อเท็จจริงผมสามารถพิสูจน์ได้ว่าในวันทำสัญญา เงินค่าว่าจ้างตามสัญญาจ้างทำของเป็นเงินของผมจริง เพราะ นาย ก. ได้ทำสัญญากับผมอีกฉบับหนึ่งว่า ผมได้ออกเงินค่าจ้างทนาย จำนวน 200,000 บาท เป็นค่าจ้างทนายในศาลชั้นต้น ให้กับ นาย ก. ไปก่อน และนาย ก. จะชำระคืนให้เมื่อคดีที่ว่าจ้างทนายถึงที่สุด แต่เมื่อติดต่อทนาย ข.ไม่ได้ ทำให้เกิดความเสียหายแก่คดี ผมจะมีสิทธิร้องเรียนมรรยาททนายความ ทนาย ข ได้ไหมครับ
ตอบ....ถ้ามีสัญญากู้ยืมเงินที่ ก. ทำไว้ให้ คุณก็ไม่ต้องไปคิดอะไรให้ยุ่งยาก ก็ฟ้องเรียกเงินคืนจาก ก. น่าจะสะดวกกว่า
2. หากในวันทำสัญญาว่าจ้าง ทนาย ข. ไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกลวง คือตั้งใจว่าความให้ตามสัญญา แต่ภายหลังรับเงินค่าจ้างไปแล้ว กลับอ้างว่าไม่สามารถลงมาพบ นาย ก. ได้ เพราะตนเองเป็นโรคความดันสูงและอยู่ในช่วงโควิด และจากนั้นได้รับปากว่าจะมาพบ นาย ก. ก็ไม่ได้มาพบอีก จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ทั้งทางโทรศัพท์และทางไลน์ จะถือว่าเข้าองค์ประกอบฐานฉ้อโกงไหม และข้าพเจ้าในฐานะผู้ออกเงินให้นาย ก. ไปก่อนมีสิทธิแจ้งความร้องทุกข์ได้ไหม หากนาย ก. ไม่ยอมดำเนินการ (และ นาย ก. ไม่มีเงินมาจ่ายคืนข้าพเจ้าด้วย เพราะคดีเสียหายจากการกระทำของ ทนาย ข. )
ตอบ...จะมีเจตนาหลอกลวงหรือไม่ คงไปสรุปไม่ได้ง่ายๆ ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันอีกพอสมควร ครับ
3 หากข้าพเจ้าถือเป็นผู้เสียหายฐานฉ้อโกง ข้าพเจ้าจะแจ้งความที่โรงพักที่ข้าพเจ้ามีภูมิลำเนาอยู่จะได้ไหมครับ หรือ
ต้องแจ้งความที่โรงพักใด
ตอบ...การแจ้งความต้องแจ้งที่โรงพัก ที่เกิดเหตุ...
#8 โดย: wer018 [IP: 101.109.255.xxx]
เมื่อ: 2021-08-03 08:48:30
ขอบพระคุณสำหรับคำตอบครับ

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 122,751